Router เริ่มต้นการทำงานด้วยการอ่านค่า bootstrap ระบบปฏิบัติการ
และไฟล์ตั้งค่ากำหนดขึ้นมา ถ้า
Router ไม่สามารถหาไฟล์ตั้งค่ากำหนดได้ มันก็จะหยุดการทำงาน
ทำการแสดงเครื่องหมาย prompt และรอให้ผู้ใช้ป้อนคำสั่งเพื่อเข้าสู่สถานะ
setup mode ถ้าสถานะนี้ถูกเรียกขึ้นมาทำงาน
ผู้ใช้จะได้รับการติดต่อเพื่อให้ทำการตั้งค่ากำหนดสำหรับ Router ขึ้นมา Router จะทำการจัดเก็บสำเนาของการตั้งค่ากำหนดใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นใน setup
mode ไว้ในหน่วยความจำถาวรชนิด nonvolatile random-access
memory (NVRAM) ถ้าสถานะ setup mode ไม่ได้ถูกเรียกใช้
ผู้ใช้ก็จำเป็นจะต้องใช้คำสั่ง IOS CLI เพื่อตั้งค่ากำหนดให้แก่
Router สถานะนี้ มักจะไม่ถูกนำมาใช้งานเนื่องจากมันมีขีดจำกัดในการตั้งค่ากำหนดให้แก่
Router
เมื่อ Router ถูกเปิดสวิทช์ขึ้นมา
มันจะทำการตรวจสอบตนเอง (power-on self test: POST) ในระหว่างการตรวจสอบนี้
Router จะทำการตรวจสอบจากหน่วยความจำ
ROM และส่วนประกอบที่เป็นฮาร์ดแวร์ทั้งหมด
การตรวจสอบนี้จะตรวจสอบการทำงานพื้นฐานของ CPU, หน่วยความจำ
และ ส่วนเชื่อมต่อระบบเครือข่าย
ภายหลังจากที่ทำการตรวจสอบฟังก์ชันของฮาร์ดแวร์แล้ว Router จะเริ่มทำการประมวลผลซอฟต์แวร์
ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. System startup routines จะทำการกระตุ้นให้ซอฟต์แวร์ของ
Router เริ่มการประมวลผล
2. Fallback routine จะเป็นตัวกำหนดทางเลือกอื่นสำหรับส่วนเริ่มต้นการทำงานในกรณีที่ต้องใช้
วัตถุประสงค์ของ
startup routine สำหรับซอฟต์แวร์
Cisco IOS นั้นก็เพื่อกระตุ้นให้ Router เริ่มการทำหน้าที่ของตนเอง Router จะต้องสามารถทำหน้าที่อย่างที่สามารถไว้ใจได้ในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายตามที่ถูกกำหนดให้ทำ
เพื่อให้สามารถทำงานนี้ได้ startup routine จะต้องกระทำ
ดังต่อไปนี้
1. ต้องแน่ใจว่าฮาร์ดแวร์ของ Router ได้รับการตรวจสอบแล้วและสามารถทำงานได้ตามปกติ
2. ค้นหาและทำการอ่านค่าซอฟต์แวร์ Cisco
IOS ที่ Router นำมาใช้ในการควบคุมการปฏิบัติงาน
3. ค้นหาและทำการอ่านค่าไฟล์ตั้งค่ากำหนด
หรือนำเข้าสู่สถานะ setup mode
ลำดับการทำงานในตอนเริ่มต้นของ Router
ภายหลังการตรวจสอบตนเอง
(POST) Router จะทำงานตามลำดับ ดังนี้
1. ทำการอ่านค่า bootstrap ในหน่วยความจำ ROM เข้ามาในหน่วยความจำ RAM ไฟล์ bootstrap ประกอบด้วย ชุดคำสั่งง่ายๆ
และการทำงานที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
คำสั่งเหล่านี้จะทำการอ่านคำสั่งอื่นเข้ามาในหน่วยความจำ
หรือนำเข้าสู่สถานะการทำงานในสถานะอื่น
2. ซอฟต์แวร์ Cisco IOS Software
image นั้นสามารถค้นหาได้จากหลายที่ เขตข้อมูล boot field ในค่ากำหนดของรีจีสเตอร์จะเป็นตัวบอกสถานที่ที่จะอ่านซอฟต์แวร์นี้เข้ามา
ถ้าเขตข้อมูลนี้กำหนดให้เป็น Flash
memory หรือการอ่านเข้ามาทางระบบเครือข่าย (จาก
TFTP server) คำสั่ง boot system ในไฟล์ตั้งค่ากำหนดจะเป็นตัวบอกชื่อและสถานที่ที่ชัดเจนของซอฟต์แวร์
image ไฟล์ตั้งค่ากำหนด หรือ startup-configuration นั้นจะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำ NVRAM ที่ซึ่งบรรจุคำสั่งและค่ากำหนดต่างๆ
ที่ถูกตั้งไว้ใช้งานในครั้งก่อนและถูกบันทึกไว้ใน Router ถ้าปรากฎว่าไม่มีคำสั่ง boot system นี้อยู่ใน startup-configuration Router จะมองหา IOS image โดยเริ่มต้นจากหน่วยความจำ
Flash memory
3.
ซอฟต์แวร์ Cisco IOS Software image จะถูกอ่านเข้ามาและเริ่มต้นทำงาน
ระบบปฏิบัติการจะมองหาองค์ประกอบที่เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต่างๆ และทำการแสดงรายการที่ค้นพบไปที่
console terminal
4.
ไฟล์ตั้งค่ากำหนด (startup-configuration) ที่บันทึกอยู่ในหน่วยความจำ
NVRAM จะถูกอ่านเข้ามาในหน่วยความจำหลักและทำการประมวลผลคำสั่งในนั้นทีละคำสั่ง
คำสั่งในการตั้งค่ากำหนดจะเริ่มการทำงานของกระบวนการค้นหาเส้นทางเดินข้อมูลจัดการกำหนดที่อยู่ให้แก่ส่วนเชื่อมต่อต่างๆ
กำหนดคุณลักษณะของสื่อ และอื่นๆ
5. ถ้าไม่ปรากฎว่ามีไฟล์ตั้งค่ากำหนดที่ถูกต้องอยู่ในหน่วยความจำ
NVRAM หรือว่าข้อมูลใน NVRAM ถูกลบไปแล้ว
ระบบปฏิบัติการจะทำการประมวลผลขั้นตอนการตั้งค่ากำหนดเริ่มต้นซึ่งเป็นลักษณะการถาม-ตอบกับผู้ใช้ เรียกขั้นตอนนี้ว่า บทสนทนาการตั้งค่ากำหนดให้แก่ระบบ (system
configuration dialog หรือ setup dialog)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น