การกำหนดเส้นทางข้อมูลลงใน Router

          หากได้ทดลองสร้างพีซี Router ตามขั้นตอนมาแล้ว  เชื่อว่าหลายท่านคงมีความเข้าใจเกี่ยวกับการกำหนดเส้นทางข้อมูลลงใน routing table  เพราะในตัว Router จะต้องได้รับการกำหนดเส้นทางข้อมูลลงไปใน routing table  ด้วยเช่นกัน เพื่อให้ Router สามารถค้นหาเส้นทางที่เหมาะสมอันจะนำข้อมูลไปสู่ปลายทางได้สำเร็จ เพียงแต่รูปแบบการกำหนดรวมทั้งคำสั่งต่างๆ จะมีมากกว่าการกำหนดเส้นทางข้อมูลลงในพีซี Router  ซึ่งการกำหนดเส้นทางข้อมูลลงใน routing table  ของ Router  จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ลักษณะ คือ สเตติก (Static Route) และไดนามิก (Dynamic Route)

สเตติก (Static Route) เป็นการกำหนดเส้นทางข้อมูลแบบคงที่ โดยผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะกำหนดเส้นทางข้อมูลลงใน routing table ของ Router แต่ละตัว วิธีนี้นับว่าเป็นวิธีที่ง่ายต่อการติดตั้ง เหมาะกับเครือข่ายขนาดเล็กที่ไม่ซับซ้อน เช่น เครือข่ายที่มีการเชื่อมโยง 2-3 แห่ง หรือเชื่อมโยงเครือข่ายขององค์กรไปยังผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีเพียงเส้นทางเดียว จึงมีความน่าเชื่อถือในด้านความปลอดภัยของข้อมูล เนื่องจากเส้นทางเดินของข้อมูลถูกกำหนดไว้อย่างตายตัว ทำให้ไม่เสียเวลาค้นหาเส้นทางอื่นนอกเหนือจากเส้นทางใน routing table

 ไดนามิก (Dynamic) เป็นการกำหนดเส้นทางข้อมูลจากการใช้ซอฟต์แวร์ที่อยู่ใน Router  ทำให้ Router แต่ละตัว สามารถสำรวจสภาวะของเครือข่ายด้วยตัวมันเอง โดยแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่านโปรโตคอลเลือกเส้นทาง (Routing Protocol) เช่น RIP (Routing Information Protocol) หรือ IGRP (Interior Gateway Routing Protocol) ที่ Cisco ได้พัฒนาขึ้น เพื่อให้ Router แต่ละตัวรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจาก Router ตัวอื่น รวมทั้งข้อมูลของตัวเองมาคำนวณหาเส้นทางข้อมูล วิธีนี้ Router จะปรับปรุงข้อมูลอยู่ตลอดเวลาตามสภาวะเครือข่ายที่เปลี่ยนไป ซึ่งการกำหนดเส้นทางข้อมูลแบบไดนามิกจะนิยมใช้ในเครือข่ายขนาดใหญ่ เนื่องจาก Router จะค้นหาเส้นทางเดินข้อมูลที่ดีที่สุดด้วยตัวมันเอง และถ้ามีเส้นทางใดถูกตัดขาด Router จะค้นหาเส้นทางอื่นมาทดแทนได้

Routing Protocol คืออะไร

Routing Protocol คือโปรโตคอลที่ใช้ในการแลกเปลี่ยน routing table ระหว่างอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆที่ทำงานในระดับ Network Layer (Layer 3) เช่น Router เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านี้สามารถส่งข้อมูล (IP packet) ไปยังคอมพิวเตอร์ปลายทางได้อย่างถูกต้อง โดยที่ผู้ดูแลเครือข่ายไม่ต้องแก้ไขข้อมูล routing table ของอุปกรณ์ต่างๆตลอดเวลา เรียกว่าการทำงานของ Routing Protocol ทำให้เกิดการใช้งาน dynamic routing ต่อระบบเครือข่าย

การทำงานของ Routing Information Protocol (RIP)

          Routing Information Protocol (RIP)เป็นโปรโตคอลเลือกเส้นทางประเภท Distance Vector ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้กับเครือข่ายขนาด เล็กไปจนถึงขนาดกลาง เป็นโปรโตคอลเลือกเส้นทางมาตรฐานที่ไม่ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตรายใด มี RIP Version 1 ที่ได้รับมาตรฐาน RFC 1058 เป็นโปรโตคอลที่เรียบง่าย อีกทั้งยังง่ายต่อการจัดตั้งคุณลักษณะการทำงานของ RIP- RIP อาศัย ค่าของจำนวน Hop เป็นหลัก เพื่อการเลือกเส้นทาง โดยจำกัดที่ไม่เกิน 15 Hop- RIP จะส่งข่าวสารเกี่ยวกับการปรับปรุงเส้นทางออกไปทุก 30 วินาที- การส่งข่าวสารเกี่ยวกับการปรับปรุงตารางเส้นทาง เป็นการส่งออกไปทั้งหมดของตารางทั้งที่เป็นของเก่าและของใหม่- การส่งข่าวสารเกี่ยวกับการปรับปรุงเส้นทาง จะเกิดขึ้นกับ Router ที่เชื่อมต่อกันโดยตรงเท่านั้น